โดย: webmaster
จากประสบการณ์ที่เคยได้รับโอกาสไปอบรม+ดูงาน และเร่รอนไปทำงานในประเทศต่างๆ ซึ่งนับรวมกันแล้วก็ประมาณเกือบ 20 ประเทศ ทำให้มีโอกาสได้สัมผัสและเรียนรู้วัฒนธรรมรวมถึงชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในแต่ละประเทศที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งแต่ละประเทศก็มีความหลากหลายที่แตกต่างกันออกไป
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
**** ประเทศที่เคยมีโอกาสได้ไปสูดอากาศ
ยุโรป : ฟินแลนด์ เยอรมัน สวิสเซอแลนด์ ออสเตรีย
ตะวันออกกลาง : คูเวต อาหรับอิมิเรตส์ การ์ต้า โอมาน
อาเซี่ยน : ลาว กัมพูชา พม่า มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย บรูไน เวียดนาม ฟิลิปปินส์
อื่นๆ : ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ปาปัวนิวกีนี ญี่ปุ่น บังคลาเทศ
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
โดยพื้นฐานที่ผมเป็นวิศวกร ดังนั้นสิ่งที่สนใจก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของเทคโนโลยีรวมถึงอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ดังนั้นหากจะถามว่าประเทศไหนและสถานที่ใดที่รู้สึกประทับใจมากที่สุดเท่าที่เคยได้ไปสัมผัส คำตอบสุดท้ายก็คือเยอรมันและรองลงมาก็ญี่ปุ่น
การได้รับโอกาสส่งให้ไปอบรมและดูงานที่เยอรมันเมื่อครั้งที่จบใหม่ๆนั้นถือว่าเป็นประการณ์ที่ไม่เคยลืม ผมได้มีโอกาสเปิดหูเปิดตาและเรียนรู้อะไรใหม่ๆนอกกะลาอีกหลายอย่าง ซึ่งยังคงประทับใจติดตรึงใจจนมาถึงทุกวันนี้ ดังนั้นจึงอยากบอกเล่าและแนะนำให้ทุกๆท่านได้ไปสัมผัสหากโอกาสมาเยือน
สถานที่แรกที่รู้สึกประทับใจอย่างยิ่งคือ งานแสดงสินค้าเทคโนโลยีอุตสาหกรรมที่เมือง hannover (the world's biggest industrial fair) ซึ่งงานนี้จะจัดใหญ่และจัดหนักทุกๆปี จัดได้ว่าเป็นจุดนัดพบผู้นำเทคโนโลยีของโลกตัวจริง ซึ่งหากใครมีโอกาสได้ไปเยอรมันขอแนะนำว่าไม่ควรพลาด
งานนี้จะมีเทคโนโลยีใหม่ๆมาอวดสายตาและแสดงให้ท่านชมมากมาย เรียกว่าขนกันมาอวดกันแบบชนิดไม่เกรงชาวบ้านกันเลยทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้นำเทคโนโลยี่ยักษ์ใหญ่อย่าง Siemens ABB Schneider Festo เปรียบเสมือนเจ้าถิ่น ซึ่งจะนำเทคโนโลยีต่างๆมาท่านเลือกชมกันแบบเต็มอัตราศึกเลยที่เดียว
สำหรับเว็บไชต์ของงานนี้ก็เข้าไปเยี่ยมชมและติดตามข่าวสารได้ที่ www.hannovermesse.de/home
คลิปวิดีโอ ตัวอย่างเล็กๆจากงาน Hannover meses 2013
อีกสถานที่หนึ่งที่อยากแนะนำก็คือ “Deutsches Museum”
ข้อมูลจาก http://en.wikipedia.org/wiki/Deutsches_Museum
The Deutsches Museum (German Museum) in Munich, Germany, is the world's largest museum of technology and science,[1] with approximately 1.5 million visitors per year and about 28,000 exhibited objects from 50 fields of science and technology. The museum was founded on June 28, 1903, at a meeting of the Association of German Engineers (VDI) as an initiative of Oskar von Miller. The full name of the museum in English is German Museum of Masterpieces of Science and Technology (German: Deutsches Museum von Meisterwerken der Naturwissenschaft und Technik). It is the largest museum in Munich.
Deutsches Museum เป็นพิธิภัณท์เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ที่เมืองมิวนิค ซึ่งมีผู้เข้าเยี่ยมชมประมาณ 1.5 ล้านคนต่อปี มีสิ่งของที่จัดแสดงประมาณ 28,000 ชิ้นจาก 50 สาขาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ขอแนะนำหากมีโอกาสได้ไปเยอรมันท่านไม่ควรพลาดครับ
รายละเอีดยเพิ่มเต็มติดตามได้ https://deutsches-museum.de
ภาพที่ถ่ายใน Deutsches Museum เมื่อครั้งตอนที่ไปอบรมที่เยอรมัน
========================================================
 |
||
================= ยูทุปของ 9engineer ,com ===================
คลิปที่น่าสนใจจัดทำโดย 9engineer.com ภายใต้ชื่อช่องTechnology talk Channel
1. วงจรและวิธีการสตาร์ทแบบไดเร็คออนไลน์ DOL
2. วงจรควรคุมการกลับทางหมุน
3. วงจรและวิธีการสตาร์ทแบบสตาร์ เดลต้า Y-D Starter
4. การสตาร์แบบออโตทรานส์ฟอร์เมอร์ Auto transformer starter
5. การต่อขดลวดมอเตอร์ อย่างไรไม่ให้เกิดการใหม้หรือเสียหาย
6. การเช็ตโอเวอร์โหลดรีเลย์
7.การเช็ตโอเวอร์โหลดรีเลย์กับมอเตอร์ที่มีเซอร์วิสแฟคเตอร์
8.รีเลย์กับคนแทคเตอร์ต่างกันอย่างไร
9.อื่นๆ
**** นายเอ็นจิเนียร์ขอสงวนสิทธิ์รับรองความถูกต้อง โปรดใช้วิจารณญาณในการรับข่าวสารข้อมูล
|
|
